ทริปคุนหมิง แชมป์ของ (ฉลาม) ที่ได้มากกว่าคำว่า “แชมป์” โดย “เจ้าชายฉลาม” พิภพ อ่อนโม้

สิ้นเสียงนกหวีด ที่สนาม ถูตง สเตเดี้ยม ในเกมที่ ชลบุรี เอฟซี ตัวแทน จาก ประเทศ ไทย เอาชนะ เอฟเค ซเวซดารา ตัวแทน จาก ประเทศ เซอร์เบีย 3-2 คว้าแชมป์ ฟุตบอลเส้นทางสายไหม “คัลเลอร์ฟูล หยุนหนาน เบลท์ แอนด์ โร้ด” อินเตอร์เนชั่นแนล ฟุตบอล ทัวร์นาเมนต์ 2018 พร้อม เงินรางวัล 1.5 ล้านบาท กลับ เมืองไทย

ภาพแห่งรอยยิ้ม และ ความสุข ที่เลือนหาย จาก ทัพ “ฉลามชล” ไปนานหลายปี กลับมาให้ได้เห็นอีกครั้ง เสียงชัยโย โห่ร้อง แสดงความดีใจ ของ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช – เจ้าหน้าที่, นักกีฬา และ พี่น้องชาวไทย ใน เมือง คุนหมิง ที่เดินทางเข้ามาร่วมเชียร์ เป็นภาพประทับใจ และ นิมิตหมายอันดี สำหรับ ชลบุรี เอฟซี ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2019

10 วันเต็ม ที่ เมือง จีน ทัวร์นาเม้นต์ ในต่างแดนคราวนี้ แตกต่างจากทุกๆครั้งที่ผ่านมา แม้จะไม่ใช่ทัวร์นาเม้นต์ ที่มีทีมระดับท็อป เดินทางมาฟาดแข้งแข่งขัน แต่จากผลที่รับกลับมา ถือเป็นประโยชน์ ต่อ ทีม มหาศาล

ผมคงจะไม่ขอเล่า ถึง เรื่องราว ที่ทัพ “ฉลามชล” ทั้ง 28 ชีวิต ต้องต่อสู้ และ ฟันฝ่า ที่เมือง จีน หรอกนะครับ เพราะท้ายที่สุดแล้ว บทสรุปของทุกอุปสรรค ที่เจอ ก็คือ ความสำเร็จ และ “แชมป์” ตอบแทนความเหน็ดเหนื่อย ของ ทุกคนๆ ได้เป็นอย่างดี แต่เรื่องที่ ผม จะเล่าในครั้งนี้ คือ เรื่องราว ของ “เจ้าชายฉลาม” พิภพ อ่อนโม้ ดาวเตะกัปตันทีม ที่มีชื่อ เป็น 1 ใน 18 ผู้เล่น ในการแข่งขันครั้งนี้ ด้วยต่างหาก

หลังจากที่ สโมสร ได้ทำการประกาศ รายชื่อนักเตะชุดลุย ศึก เส้นทางสายไหม ออกไปก่อนหน้าการเดินทาง 1 วัน แน่นอนล่ะครับ ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และ คอมเม้นท์ ต่างๆนาๆ ตามมา ซึ่งนักเตะที่โดน วิจารณ์มากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น พิภพ อ่อนโม้ นั่นเอง

ซึ่งการเดินทางไป จีน ครั้งนี้ พิภพ ไปในฐานะ ผู้ช่วยโค้ช พร้อมตำแหน่ง เพลเยอร์ จำเป็น เนื่องจาก นักเตะ ในตำแหน่ง ศูนย์หน้า จาก ทีมเยาวชน ติดภารกิจ ในการลงเล่น ศึก เอฟเอ ยูธ ลีก ประกอบกับ ศูนย์หน้าคนใหม่ อย่าง ลูเคียน อาราอูโจ้ ยังไม่ฟิตเพียงพอ เนื่องจาก เพิ่งจะเดินทางเข้ามาซ้อม กับ ทีม ได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์

“โค้ชโบ้” แก้ปัญหาการไม่มีนักเตะ ศูนย์หน้า ด้วยการดัน เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ขึ้นไปเล่น ในระบบ 4-2-3-1 โดยไม่ใช้ พิภพ ลงสนาม แต่ด้วยปัจจัยเรื่องการแข่งขันที่ต่อเนื่อง การเข้าปะทะหนัก สภาพร่างกายที่อ่อนล้า และ ไม่ต้องการเสี่ยง กับ อาการบาดเจ็บ ของ ผู้เล่นทุกๆคน มันเลยต้องเป็น พิภพ ที่ต้องรับหน้าที่ สวมปลอกแขน นำลูกทีม ลงสนามอีกครั้ง

ซึ่งผลงานการลงสนาม ของ พิภพ ทำได้ 2 ประตู จาก 4 นัด ตลอดจนใช้ประสบการณ์, ความเก๋า และ ความเป็นผู้นำ แสดงออกให้ทุกคนเห็นอย่าง มหัศจรรย์ ซึ่งนั่นเป็นเครื่องยืนยัน ว่า นักเตะที่อายุ 39 ปี ผู้นี้ยังคงมีจิตวิญาณ และ ความมุ่งมั่น ทุกครั้งที่สวมเสื้อ “ฉลามชล” อยู่เสมอ

“พี่ดีใจนะ ที่ได้เห็น วันที่พวกเราได้ดีใจ พวกเราได้มีความสุข ได้ฉลองอีกครั้งในวันนี้ แม้มันจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ของ ทีม การเดินทางมาจีนครั้ง ทีมได้ประโยชน์ หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมทีม การสร้างความมั่นใจ และ สร้างประสบการณ์ที่ดี ให้กับผู้เล่นหลายๆคนในเกมระดับนานาชาติ”

“พี่ดีใจ ที่วันนี้ พี่ ได้เห็นน้องๆ กลุ่มนักเตะรุ่นใหม่ๆ เริ่มแข็งแรง และ แข็งแกร่ง พร้อมแล้ว ที่จะสู้ พา ชลบุรีฯ เดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ ที่เรารอคอยกันมาหลายปี สักที”

“ก้อง (เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์) มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ มีความเป็นผู้นำมากขึ้นในปีนี้, อ๊อฟ (นพนนท์ คชพลายุกต์) ก็เป็นนักเตะที่มีเลือดนักสู้ไฟท์ติ้ง เต็มที่ทุกครั้ง ที่ลงสนาม, บาส (ชนิทร์ แซ่เอียะ) ก็มีความสุขุม คิดเป็น และ เป็นแบบอย่างที่ดี ของ น้องๆ คนอื่นๆที่พี่ไม่ได้พูดถึงด้วยนะ พี่ว่าทุกคนพร้อมแล้ว ส่วน ยิม (วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ) กับ แจ๊ป (สหรัฐ สนธิสวัสดิ์) 2 คนนี้ ยกระดับ และ พัฒนาตัวเอง ข้ามผ่าน นักเตะเยาวชน สู่ นักเตะอาชีพ ได้แบบเต็มตัว ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง”

“สำหรับพี่ตอนนี้ แค่ได้เป็นส่วนหนึ่ง ของ ทีม ทีมนี้ ทีมที่พี่รัก ทีมที่ให้ชีวิตใหม่กับพี่ สร้างอนาคตที่ดี ให้กับ พี่ และ ครอบครัว พี่ ก็ดีใจแล้ว จะในฐานะอะไรก็เถอะ พี่มีความสุข ทุกๆวัน ใครเขาจะด่า จะว่าอะไร ก็ช่างเขา พี่ไม่ได้สนใจหรอก เอาจริงๆนะ”

“ส่วน แชมป์นี้ ก็ขอมอบเป็น ของ ขวัญปีใหม่ ให้กับ แฟนบอล ชลบุรี เอฟซี ทุกคนๆ แล้วกัน”

นั่นคือ บทสนทนา ระหว่าง ผม และ พิภพ ในร้านกาแฟ แห่งหนึ่ง ณ เมือง คุนหมิง ในวันที่เราเตรียมตัว เดินทางกลับ เมืองไทย บทสนทนา ที่มีทั้ง รอยยิ้ม, เสียงหัวเราะ แม้จะมีบางช่วงบางตอน ที่อาจจะดูดราม่าเล็กน้อย แต่ก็ออกมาจาก หัวใจ ของ ผู้ชาย ที่อยู่กับทีม ชลบุรี เอฟซี ตั้งแต่ก้าวแรก บทเวที ไทยลีก ผ่านร้อนผ่านหนาว กับ ทีม มาหลายยุคหลายสมัย จนถึง ทัวร์นาเม้นต์ล่าสุด ที่เมือง จีน หรือนี่จะเป็นบทสนทนา ที่ “เจ้าชายฉลาม” กำลังจะบอก เรา ว่า คงถึงเวลาที่ ตัวเขานั้น จะปิดฉาก ตำนานที่ยิ่งใหญ่ ในถิ่น ชลบุรี สเตเดี้ยม แห่งนี้เสียที?

“ไปขึ้นเครื่อง…. เอาน่า คิดอะไรมาก เรื่องราวทุกเรื่อง มันต้องมีตอนจบ แต่ในชีวิตจริง ในทุกๆ ตอนจบ คือ การเริ่มต้นครั้งใหม่ นะ” พิภพ กล่าวปิดท้าย

Bent 5 เรียบเรียง