การแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2020 นัด 2 ประจำวันเสาร์ที่ 22 ก.พ.ที่สนาม ช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ เวลา 19.00 น. เกม บิ๊กแมตช์ ประจำสัปดาห์ ระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้าน พบ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี
“ปราสาทสายฟ้า” ของ กุนซือ โบซิดาร์ บันโดวิช จัดทัพ 11 คนแรก มี ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เป็นผู้รักษาประตู ขณะที่ผู้เล่น อันเดรส ตูเญซ, พรรษา เหมวิบูลย์, ศศลักษณ์ ไหประโคน, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, แบร์นาโด้ กูเอสต้า นำทัพ
ส่วน “ฉลามชล” ทีมเยือน “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ เปลี่ยนแปลง 11 คนแรก จากเกมที่เปิดบ้าน เอาชนะ ระยอง เอฟซี 1 ตำแหน่ง โดยส่ง กรวิทย์ นามวิเศษ ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย แทนที่ ณัฐพงศ์ เปพาทย์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนตัวหลัก อย่างสินทวีชัย หทัยรัตนกุล, นพนนท์ คชพลายุกต์, คาร์ลี เดมูร์ก้า, กฤษดา กาแมน, คาซูโตะ คูชิดะ, ธีรเทพ วิโนทัย, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, แฮร์ริสัน ไคออน ลงสนามแบบพร้อมหน้า
เริ่มเกมในครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมเปิดฉากบุกเข้าใส่กันอย่างสนุก และ เพียงแค่ 5 นาที กองเชียร์ เจ้าถิ่น ก็ได้เฮกันลั่น จาก ลูกยิง ของ สุภโชค สารชาติ ที่ทำชิงกับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา แล้วได้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ บอลแฉบขาหลัง กรวิทย์ นามวิเศษ ข้ามตัว สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เข้าไป เจ้าถิ่น ขึ้นนำ 1-0
หลังเสียประตู “ฉลามชล” บุกเข้าใส่ทันที หวังทวงประตูคืน ซึ่งแม้ว่าจะครองบอลได้มากกว่า แต่ยังเจาะแนวรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่เข้า
นาทีที่ 14 ชลบุรี เอฟซี พลาดโอกาสในการได้ประตูตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ คาซูโตะ คูชิดะ พาบอลลากขึ้นมา ทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายบอลตัดเข้ากลางไปให้ ธีรเทพ วิโนทัย ที่เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนที่ ธีรเทพ วิโนทัย จะได้ยิงเน้นบอลติดไซด์ออกหลังไป
นาทีที่ 16 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูที่ 2 เมื่อ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ใช้ความเร็ว พาบอลหนี กรวิทย์ นามวิเศษ แล้วเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แบร์นาโด้ กูเอสต้า พุ่งเข้าชาร์ต แต่ยังมี จูเนียร์ โลเปส ตามมาบัง ทำให้ยิงไม่ถนัดนักบอลออกหลังไป
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง ธีรเทพ วิโนทัย จ่ายบอลพลาดที่กลางสนาม ทำให้ เจ้าถิ่น ได้เล่นเกมโต้กลับเร็ว ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา พาบอลลากจี้ขึ้นมา ก่อนเปิดย้อนไปให้ แบร์นาโด้ กูเอสต้า ได้ยิงแต่ ลูกนี้ จูเนียร์ โลเปส ยังตามมาสกัดทิ้งจากเส้นประตูไว้ได้ทัน
นาทีที่ 24 โอกาสอีกครั้ง ของ ชลบุรี เอฟซี จากลูกเตะมุม ก่อนจะเป็น แฮร์ลิสัน ไคออน ที่ได้ยิงในระยะ 6 หลา บอลติดเซฟ ของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่ยังเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 33 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีห่าง ออกไปเป็น 2-0 ลูกเปิดจากริมเส้นฝั่งซ้าย เข้ามาในกรอบเขตโทษ ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คาร์ลี เดมูร์ก้า สกัดพลาดในจังหวะแรก บอลเลยมาถึง สุภโชค สารชาติ ได้ยิงโล่งๆเข้าไป
ท้ายครึ่งแรก ชลบุรี เอฟซี ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน จากจังหวะที่ จูเนียร์ โลเปส ที่เป็นกองหลังตัวสุดท้าย แล้วไปดึง สุภโชค สารชาติ ที่กำลังจะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ค VAR แล้วชูใบแดง ไล่ จูเนียร์ โลเปส ออกจากสนามไป และ จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง นาทีที่ 48 เกมรุก ของ เจ้าบ้าน เกือบได้ประตูเพิ่ม ลูกยิงไกล ของ รัตนากร ใหม่คามิ ชนคนอย่างน่าเสียดาย แต่จังหวะตัดกลับ เกมโต้กลับ ของ ชลบุรี เอฟซี พลาดการได้ประตูตีไข่แตก ไปอีกครั้ง เมื่อ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังปัดทิ้งออกหลัง
แต่แล้ว นาทีที่ 51 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็มาหนีห่างเป็น 3-0 จนได้ แบร์นาโด้ กูเอสต้า พาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนปาดไปที่เสาสอง ให้ ริคาร์โด บูเอโน ชาร์ตเหน่งๆไม่พลาด
นาทีที่ 57 เกมโต้กลับ ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูเพิ่มเป็น 4-0 เมื่อ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา พาบอลขึ้นมาในแดน ของ ชลบุรี เอฟซี ก่อนจ่ายไปให้ สุภโชค สารชาติ ที่จ่ายต่อไปให้ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ยิงด้วยขวา เสียบเสาแรก
นาทีที่ 61 ชลบุรี เอฟซี ที่แม้ว่าจะตามหลังถึง 4 ประตู แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พยายามปั้นเกมสู้ หวังทวงประตูคืน ซึ่ง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ได้จังหวะส่งบอลเข้าไปสู่ก้นตาข่ายได้แล้ว แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ชูธงเป็นลูกล้ำหน้า
ในช่วงเวลาที่เหลือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ตัวผู้เล่นมากกว่า ลงไปเล่นเกมรับต่ำในแดน ก่อนจะอาศัยจังหวะ ผิดพลาดในเกมรุก ของ ชลบุรี เอฟซี โจมตีด้วยลูกโต้กลับเร็ว แต่ไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบ 90 นาที ชลบุรี เอฟซี บุกพ่าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไป 0-4
โดยโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป ของ ชลบุรี เอฟซี จะลงเล่นเกมนัดกลางสัปดาห์ พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี วันพุธที่ 26 ก.พ.นี้ ที่สนาม ชลบุรี สเตเดี้ยม เวลา 17.45 น. จำหน่ายบัตรแล้วที่ 7-11 ทุกสาขา หรือที่ https://www.allticket.com/event/ChonburiFC2020