นับเป็นนักเตะดาวรุ่งที่มีโปรไฟล์ชีวิตที่น่าสนใจอีกคนหนึ่งของวงการฟุตบอลไทย สำหรับเจ้า “เต้ย” ณัฐวุฒิ ชูติวัตร มิดฟิลด์อนาคตไกลของฝูง “ฉลาม” เด็กหนุ่มจาก หนองคาย ที่เข้ามาเพาะบ่มทักษะลูกหนังมาจากอคาเดมี่ฟุตบอลสโมสรชลบุรีฯ ตั้งแต่วัยเยาว์ จนกระทั่งเวลานี้ “เจ้าเต้ย” คว้าแชมป์อาเซียน กับทีมชาติไทยชุดยู 18 ที่ประเทศเมียนมาร์ เมื่อเร็วๆ นี้
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ในวัย 18 ปี ของ “เจ้าเต้ย” กับมีเรื่องราวสุด “ปาฏิหาริย์” ที่เจ้าตัวประสพพบเจอมาจากการป่วยเป็นโรคมะเร็งที่หน้าอกตอนอายุ 15 แต่สุดท้ายด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง และความฝันที่จะเป็นนักเตะทีมชาติไทย จึงทำให้เจ้าตัวหายขาดจากโรคร้าย และกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง
“ตอนนั้นผมแข่งขันฟุตบอลรายการไนกี้ ประเทศไทยที่สนามของ บางกอกกล๊าสฯ พอใกล้จะจบครึ่งแรก ผมรู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ และผมเจ็บหน้าอก จนโค้ชเปลี่ยนตัวผมออก และโค้ชเฮง ก็โทรให้แม่ผมมารับเพื่อพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจรักษาอาการให้แน่ชัด ท้ายสุดคุณหมอบอกกับคุณพ่อและคุณแม่ผมว่า ผมเป็นโรคมะเร็งระยะที่ 3 ที่บริเวณหน้าอก และถ้าอยากจะหายต้องทำการผ่าตัดเพียงอย่างเดียว”
“ผมไม่รู้จริงๆ ครับว่าผมเป็นโรคอะไร ผมนอนโรงพยาบาลเป็นเดือน ผมมีอาการต่างๆ มากมาย และผมก็ลองหาข้อมูลจากกูเกิ้ล จนรู้ว่าตัวเองมีอาการคล้ายๆโรคมะเร็ง ที่ผมต้องหาข้อมูลเอง เพราะคุณพ่อคุณแม่ ไม่ได้บอกผมว่าผมเป็นโรคอะไร”
เสมือนสายฟ้าฟาด สาดใส่ชีวิตที่กำลังจะสวยงามของ “เจ้าเต้ย” เด็กหนุ่มที่กำลังมีความฝันบนเส้นทางลูกหนังที่เขารัก หลังจากเจ้าตัวเคยได้รับโอกาสครั้งสำคัญ นั่นคือการสวมปลอกแขนกัปตันทีมชลบุรี U12 ลุยศึก ดานอล เนชั่นส์ คัพ ที่ประเทศสเปน และยิ่งไปกว่านั้นเป็นการแข่งในสนามซานติอาโก้ เบอร์นาบิว รังเหย้าของยอดทีมแดนกระทิงดุอย่าง เรอัล มาดริด และคว้ารองแชมป์โลกด้วยการแพ้ทีมชาติบราซิลรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ไป 0-4 แต่ประสบการณ์และจุดเริ่มต้นของความฝันในวัย 12 กระรัต จากวันนั้น ที่เด็กหนุ่มคนนี้ฝันไว้ว่าอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และติดทีมชาติไทย แต่แล้ว “โชคชะตา” เหมือนเล่นตลก เมื่อ “เจ้าเต้ย”ต้องป่วยเป็นโรคมะเร็งในระยะที่ 3
“พอผมรู้ว่าผมป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 3 ผมเสียใจและผมคิดแต่ว่า ทำไมเรื่องร้ายๆต้องเกิดกับตัวผม สภาพจิตใจแย่มาก แต่กำลังใจที่ได้ก็คือครอบครัว และเพื่อนๆ รวมไปถึงผู้ใหญ่ที่รักผม จนสุดท้ายความหวังของผมก็คือ คุณหมอที่ทำการผ่าตัด รับปากกับผมว่าถ้าผ่าตัดเสร็จแล้วจะปลอดภัยแน่นอน สิ่งนี้ทำให้ผมมีความหวัง”
“แต่สิ่งที่ผมหวังมากกว่าการมีชีวิตอยู่ก็คือ ผมจะต้องหาย และผมจะต้องกลับมาเล่นฟุตบอลให้ได้ และผมยังไม่อยากตาย ผมต้องมีชีวิตต่อไป และผมจะต้องเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และติดทีมชาติไทย สิ่งนี้คือความต้องการของผม”
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เวลาผ่านไป 3 ปี “เต้ย” ณัฐวุฒิ ชูติวัตร ได้กลับมาเล่นฟุตบอล กับสโมสรชลบุรี เอฟซี บี และ เมื่อปีที่ผ่านมา เต้ย ยังพาทีม “ฉลามชล” รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี คว้าแชมป์ “Thailand Youth League” รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี และปีนี้ เจ้าตัวเพิ่งซิวแชมป์อาเซียน กับทีมชาติไทยชุดยู 18 ปี ที่ประเทศเมียนมาร์
สิ่งเดียวที่เด็กหนุ่มคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ได้แบบ “ปาฏิหาริย์” ก็คือ “กำลังใจ” จากครอบครัว และหัวใจที่แข็งแกร่ง และที่สำคัญที่สุดก็คือ “ฟุตบอล”
“ฟุตบอล” ทำให้ “เต้ย” เอาชนะ โรคมะเร็งได้ และ “ฟุตบอล” ทำให้ “เต้ย” ไม่ยอมตาย
ก็เพราะความฝันและความหวังในชีวิตของ เด็กหนุ่มจากหนองคายรายนี้ที่ทั้งชีวิตคิดเพียงแค่ “อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และการได้รับใช้ชาติ” รวมไปถึง การดูแลและทดแทนพระคุณพ่อกับแม่ ด้วยการหารายได้จากการเล่นฟุตบอล
มะเร็งคือโรคร้ายที่ “เต้ย” ณัฐวุฒิ ชูติวัตร เอาชนะ “มะเร็ง” ได้ ถึงแม้ “โอกาส” ในโชคชะตาแห่งการต่อสู้นั้น มันแทบจะเป็นเลข “ศูนย์” แต่ด้วยหัวใจ กำลังใจ และ “ฟุตบอล” คือสิ่งเดียวที่ “เต้ย” ไม่เคยสิ้นหวัง จนวันนี้ “เต้ย” ได้ลบเลข “ศูนย์” ออกจากชีวิตไปแล้ว และกำลังเริ่มต้นนับเลขหนึ่ง ไปจนถึงหลัก “ล้าน” กับความฝันที่เจ้าตัวรอคอย