ถ้าเราทำเต็มที่ ทำให้สมบูรณ์ ผมเชื่อมั่นว่าสักวันโอกาสจะต้องผ่านมา, พงศกร ตรีสาตร์

ประตูปิดท้าย ในเกมที่ ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้าน ชนะ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 2-0 เมื่อค่ำคืนของวันพุธที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา มาจากฝีเท้าของ “เจ้าแบงค์” พงศกร ตรีสาตร์ ประตูดังกล่าวนอกเหนือจากจะเป็นการยิงประตูพา ทัพ “ฉลามชล” ปลดล็อคเอาชนะ “กว่างโซ้งมหาภัย” ได้เป็นครั้งแรกในการพบกันตลอด 12 เกมหลังสุดแล้ว ยังช่วยให้ทีมเก็บ 3 คะแนนสำคัญมาครองได้สำเร็จ พร้อมรักษาพื้นที่ เหนือโซนแดงซึ่งมีความสำคัญมากๆเอาไว้ได้ต่อไป อีกทั้งยังเป็นประตูที่ 2 ของดาวเตะวัย 23 ปี ที่ทำได้ในฤดูกาลนี้อีกด้วย

อีก 1 ผลผลิตแห่งความภาคภูมิใจ จากรั้ว ชลบุรี เอฟซี อคาเดมี่ เกิดเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ปี 2001 เป็นชาว จ.กำแพงเพชร โดยเขาถือเป็น 1 ใน 4 นักเตะจากทีมอคาเดมี่ ร่วมกับ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, ทรงชัย ทองฉ่ำ และ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ที่ได้รับโอกาสในการเซ็นสัญญาและผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ของทัพ “ฉลามชล” ในฤดูกาล 2020 ซึ่งช่วงแรกที่มีชื่อลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ ด้วยความที่่เพิ่งผ่านเวทีระดับลูกหนังขาสั้น มาสู่เวทีอาชีพ ทำให้ “แบงค์” แทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลย จนสุดท้ายเขาจึงถูกปล่อยตัวให้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ในศึก ไทยลีก 3 กับ สโมสร อุทัยธานี เอฟซี ในปีต่อมา และถือเป็น 1 ในขุมกำลังสำคัญ พา “ช้างป่าห้วยขาแข้ง” ภายใต้การนำของ “โค้ชเทิด” เทิดศักดิ ใจมั่น กุนซือใหญ่ในเวลานั้น เลื่อนชั้นขึ้นสู่ ไทยลีก 2 ได้สำเร็จ

ก่อนที่ในปีต่อมา เขายังคงเดินทางออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อ กับสโมสร สมุทรปราการ ซิตี้ ในศึก ไทยลีก 2 ที่มี “โค้ชโบ้” จักรพันธ์ ปั่นปี กุนซือ DNA “ฉลามชล” คุมทัพ โดย 1 ปีที่นั่น “แบงค์” เป็นแกนหลัง ให้กับ ทัพ “เขี้ยวสมุทร” โดยลงสนามไปถึง 25 นัด รวมเวลาในการลงเล่นกว่า 1,730 นาที ยิง 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์

เป็นเวลากว่า 2 ปีเต็ม ที่ “แบงค์” ออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อเป้าหมายในการกลับมาเป็นกำลังหลักของ ทัพ “ฉลามชล” ให้ได้ จนกระทั่งในที่สุด ทีมงานผู้บริหารและสตาฟฟ์โค้ชทุกคน ต่างมองและมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ฤดูกาลนี้น่าจะถึงเวลาที่ พงศกร ตรีสาตร์ จะได้พิสูจน์ฝีเท้าของตัวเอง กับสโมสร ชลบุรี เอฟซี แบบจริงๆจังๆเสียที

และ “แบงค์” ก็ไม่ทำให้ความตั้งใจของทุกคนผิดหวัง เขามุ่งมั่นฝึกซ้อม และ ทำผลงานส่วนตัวช่วงปรีซีซั่นได้อย่างยอดเยี่ยม ชนะใจ มาโกโตะ เทกุระโมริ มอบโอกาสให้เริ่มต้นฤดูกาล 2023/24 ด้วยการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตั้งแต่เกมแรก ซึ่งเขาเองก็กำลังทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ทว่าโชคชะตากลับเหมือนเล่นตลก เมื่อหลังจากผ่านโปรแกรมการแข่งขันในช่วงต้นฤดูกาลไปได้ไม่นาน ก็มาโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ทำให้ต้องเข้าๆออกๆจากทีมไปหลายต่อหลายนัด

แม้ว่าเขาจะรู้สึกผิดหวัง แต่เขาไม่รู้สึกย่อท้อแต่อย่างใด เขายังยึดมั่นในการทำงานหนัก ในการฟื้นฟูร่างกาย การฝึกซ้อมในสนามฝึกซ้อม และเชื่อมั่นใจตัวเอง ว่า เขาจะต้องไขว่คว้าโอกาสในการลงสนามกลับมาให้ได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะลงสนามในฐานะตัวจริง หรือตัวสำรอง จะได้เล่นในตำแหน่งไหน จะมีเวลาอยู่ในสนามกีนาที เขาทำทุกโอกาสของเขาอย่างเต็มที่

“ผมเสียดายมากกว่าครับ ไม่ได้รู้สึกว่าเสียใจอะไร ที่ตัวเองเจ็บบ่อย ทำให้ได้รับโอกาสในการลงเล่นน้อย ส่วนหนึ่งผมคิดว่าในเมื่อ ณ ตอนนี้ร่างกายผมยังไม่พร้อม ยังไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็น ผมก็มามุ่งมั่นทุ่มเทในสนามฝึกซ้อมให้เต็มที่ก่อน ไม่ท้อครับ ทำให้เต็มที่ ทำให้สมบูรณ์ ผมเชื่อมั่นเสมอว่าโอกาสจะต้องผ่านเข้ามา สำหรับผมตำแหน่งไหนก็ได้ครับ กี่นาทีในสนามก็ได้ ถ้าได้รับโอกาสให้เล่นผมเต็มที่แน่นอน ผมอยากช่วยทีมให้ได้มากที่สุด ยิ่งเวลานี้ทีมเราอยู่ในสถานการณ์ไม่ดี จนอาจารย์ (โค้ชเฮง) ต้องลงมาคุมทีมเอง มันก็เหมือนเราเล่นตอบแทนในสิ่งที่ท่านเคยสอน เคยปลุกปั้นเรามา จนกลายมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในวันนี้ ตอบแทนสโมสรที่สร้างเรามาตั้งแต่วัยเด็ก ให้โอกาสเรา อย่าง ชลบุรี เอฟซี ด้วยครับ”

ถึงตอนนี้ “แบงค์” ลงสนามให้กับ ชลบุรี เอฟซี ไปแล้ว 18 นัดรวมทุกรายการ ยิงไป 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ซึ่งแม้ว่านี่อาจจะยังไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีที่สุดของเขากับ ทัพ “ฉลามชล” แต่ด้วยแนวคิด และ ทัศนคติ ที่เขามีต่อ “ฟุตบอล” ที่เขารักนั้น เชื่อได้เลยว่าจะทำให้เขากลับมาสู่ฟอร์มอันยอดเยี่ยมอีกครั้งได้อย่างแน่นอน

โดยหลังจากนี้ พงศกร ตรีสาตร์ จะเป็นตัวแทน 1 เดียว จากสโมสร ชลบุรี เอฟซี ในทีมชาติไทย ชุด U23 ที่เตรียมเดินทางไปทำการแข่งขัน ฟุตบอล AFC U23 Asian Cup 2024 ที่ กาตาร์ ระหว่างวันที่ 15 เม.ย.- 3 พ.ค.นี้ ก็ของฝากแฟนบอล “ฉลามชล” ร่วมเชียร์ และ เป็นกำลังใจให้กับ พงศกร ตรีศาสตร์ และ ทีมชาติไทยของเรา กันด้วยนะครับ