2
Recap
การแข่งขัน รีโว่ ไทยลีก 2021/22 นัดที่ 13 ประจำวันเสาร์ที่ 13 พ.ย. เกมระหว่าง “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้าน สนาม ชลบุรี สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือน ของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แข่งขันเวลา 18.00 น.
11 ผู้เล่นคนแรก ของ ชลบุรี เอฟซี ประกอบไปด้วย ชนินทร์ แซ่เอียะ (GK), บุคฆอรี เหล็มดี, ทรงชัย ทองฉ่ำ, จูเนียร์ เอลสตอล, ฉัตรมงคล เรืองณฐโรจน์, จักรพงษ์ แสนมะฮุง, กฤษดา กาแมน, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ยู บยอง ซู, จิดี้ คานยุค, เดนนิส มูริลโล
ส่วน 11 เล่นคนแรก ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต้ด ประกอบไปด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), ชิติพัทธ์ แทนกลาง, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, พรรษา เหมวิบูลย์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, รัตนากร ใหม่คามิ, อิราฟาน ดอเลาะ, ปิยพล ผานิชกุล, สุภโชค สารชาติ, ไมคอน มาร์เกวซ, ศุภชัย ใจเด็ด
เปิดฉากมาในครึ่งแรก เกมเปิดแลกเข้าใส่กันทันที โดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นก่อนจากลูกเตะมุมฝั่งขวา เดนนิส มูริลโล โหม่งทิ้งมา เข้าทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รัตนากร ใหม่คามิ ได้เปิดไปที่เสาสอง ผู้เล่น ทีมเยือน พยายามเข้าชาร์ตแต่ไม่ถึง บอลออกไป
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงเดินเกมบุก โดยที่ ชลบุรี เอฟซี พยายามหาจังหวะโต้กลับเร็ว และมามีจังหวะได้ลุ้นประตู จาก ลูกยิงของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แต่ทว่าเบาเกินไปเข้ามือของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน รับไว้ได้
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีโอกาสได้ลุ้นประตูขึ้นนำ นาทีที่ 12 แนวรับของ ชลบุรี เอฟซี ที่โหม่งทิ้งไม่ขาดบอลมาเข้าทาง ศุภชัย ใจเด็ด เก็บบอลได้ก่อนเปิดเข้ากลางไปให้ ไมคอน มาร์เกวซ จับหนึ่งจังหวะก่อนตัดสินใจยิง แต่จังหวะนี้ ชนินทร์ แซ่เอียะ ที่อ่านจังหวะอยู่เดินออกมาบล็อคไปได้ทัน
นาทีที่ 15 เก็บต้องหยุดลงชั่วคราวเมื่อมีจังหวะปะทะกันของ ชนินทร์ แซ่เอียะ กับ ไมคอน มาร์เกวซ ที่หน้ากรอบเขตโทษ แต่ทั้ง 2 คนยังสามารถเล่นต่อได้ เกมกับมาสู้กันต่อ วึ่งยังเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่บุกใส่ ชลบุรี เอฟซี เช่นเดิม และมาได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกยิงไกล ของ สุภโชค สารชาติ บอลเหินข้ามคานออกหลัง
ชลบุรี เอฟซี พยายามครองบอลสร้างจังหวะบุก แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นการเซ็ตบอลในแดนกลาง วึ่งก็ยังเจาะแนวรับ ทีมเยือน ไม่เข้า นาทีที่ 23 ฟรีคิกของ จิดี้ คานยุค เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ เดนนิส มูริลโล ได้พุ่งโหม่ง แต่บอลออกหลังไปแบบมีลุ้น
นาทีที่ 25 ชลบุรี เอฟซี มาได้ลุ้นลูกฟรีคิก 2 ครั้งติดต่อกัน ก่อนที่จังหวะสุดท้าย ฉัตรมงคล เรืองณฐโรจน์ จะเปิดมาให้ ยู บยอง ซู ได้ยิงแต่เบาเกินไป ไม่ผ่านการป้องกันของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน อีกครั้ง
เกมยังคงแลกกันอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องหยุดหลายครั้ง เมื่อมีจังหวะปะทะกันของ ผู้เล่นทั้ง 2 ทีมจนผู้ตัดสินต้องเป่าฟาวล์หลายครั้ง นาทีที่ 41 โอกาสของ ชลบุรี เอฟซี จากลูกฟรีคิก จิดี้ คานยุค เปิดไปโดนแนวรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดโหม่งทิ้งไม่ขาด ยู บยองซู ได้ซ้ำเหินข้ามคานออกหลังไปแบบมีลุ้น
นาทีที่ 45 ชลบุรี เอฟซี พลาดโอกาสการได้ประตูขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ เมื่อ ยู บยองซู แทงบอลทะลุช่องให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ได้หลุดเข้าไปเลือกมุมยิง แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังยอดเยี่ยมมาก เมื่อปัดบอลทิ้งไปได้ จบ 45 นาทีแรก ชลบุรี เอฟซี 0-0 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปรับแท็คติกด้วยการถอดเอา ชิติพัทธ์ แทนกลาง และ ปิยพล ผานิชกุล ออก แล้วส่ง ทินกร อสุรินทร์ และ อ่องทู ลงเล่นแทน
เปิดเกมมายังเป็น ทีมเยือน “ปราสาทสายฟ้า” ที่บอกใส่ เจ้าถิ่น “ฉลามชล” เช่นเดิม และมาได้ลุ้น นาทีที่ 50 ไมคอน มาร์เกวซ เก็บบอลจากจังหวะเปิดของ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ก่อนจะไหล่มาให้ อ่องทู ยิงแต่วางเท้าไม่ดีบอลเหินข้ามคานออกหลัง
ชลบุรี เอฟซี ที่เก็บบอลจังหวะสองได้ และ พยายามจะโหมบุกโต้กลับหลายครั้งแต่ทว่าถูกแนวรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดักตัดเกมด้วยการฟาวล์ที่กลางสนาม หลายครั้ง จนเกมไม่ต่อเนื่อง
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แก้เกมต่อเนื่อง คราวนี้ถอด สุภโชค สารชาติ แล้วส่ง ซามูเอล โรซ่า ลงเล่นแทนอีกครั้ง ส่วนชลบุรี เอฟซี ถอด จิดี้ คานยุค ออก แล้วส่ง สหรัฐ สนธิสวสัดิ์ ลงเล่นแทน
เกมที่ยังค่อยต่อเนื่องหลังจากมีจังหวะตัดเกมกันหลายต่อหลายครั้งทำให้ผ่าน 70 นาที สกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
จนกระทั่งเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 74 มีจังหวะฟาวล์ในกรอบเขตโทษ อภิวัฒน์ งั่วลำหิน ไปทำฟาวล์ เดนนิส มูริลโล ก่อนที่ผู้ตัดสินเช็ค VAR และตัดสินให้ ชลบุรี เอฟซี ได้ลูกโทษ ซึ่ง เดนนิส มูริลโล ลุกขึ้นมายิงเอง จังหวะแรกไปติดเซฟของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน แต่บอลยังเข้าทาง เดนนิส มูริลโล่ ยิงซ้ำเขช้าไป ชลบุรี เอฟซี ขึ้นนำ 1-0
หลังเสียประตู บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โหมบุกเข้าใส่อย่างหนักหวงทวงประตูคืนให้ได้ แต่ทว่า ชลบุรี เอฟซี ที่รองเล่นเกมโต้กลับเกือบบวกสกอร์เพิ่ม 2 ครั้งติดต่อกัน แต่ทว่ายังเป็นแค่จังหวะหวาดเสียว
ท้ายเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกกดดันหนัก จนผู้เล่นของ ชลบุรี เอฟซี ต้องถอดลงไปรับในแดนกัน แล้วคอยหาจังหวะโต้กลับ จังหวะบุกเพลินๆของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำให้ ชลบุรี เอฟซี มาได้ประตูที่ 2 จนได้ เกมโต้กลับทางฝั่งขวา ก่อนเป็น วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่จบบอลก่อนหาจังหวะยิงตุงตาข่าย เป็นสกอร์ปิดท้ายให้ ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้าน เอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญไปครองได้สำเร็จ
โดยโปรแกรมนัดต่อไป ชลบุรี เอฟซี จะลงสนาม ในศึก รีโว่ ไทยลีก 2021/22 นัดที่ 14 บุกไปเยือน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี วันเสาร์ที่ 20 พ.ย.นี้ เวลา 18.00 น.
