Recap
สรุปผลการแข่งขัน
ศึกลูกหนัง โตโยต้า ไทยลีก 2016 เกมนัดตกค้าง วันศุกร์ที่ 15 เม.ย. เวลา 18.00 น. ที่สนาม ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม จ.บุรีรัมย์ เป็นศึกซูเปอร์บิ๊กแมตช์ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ยกทัพออกไปเยือน “แชมป์เก่า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
เกมนี้ “โค้ชเทิด”เทิดศักดิ์ ใจมั่น มีปัญหาในการจัดทีมเล็กน้อย เมื่อ คิม จองพิล ปราการหลังจอมแกร่ง ชาว เกาหลีใต้ ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าระหว่างการฝึกซ้อม ไม่สามารถลงสนามได้ ส่วน ประกิต ดีพร้อม และ นฤพล อารมณ์สวะ ที่ติดสัญญายืมตัวลงเจอกับทีมเก่าไม่ได้เช่นกัน
11 คนแรก มี ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ เป็นผู้รักษาประตู กองหลังใช้ ชลทิตย์ จันทคาม ยืนเป็นเซ็นต์เตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ แอนเดอร์สัน ดอสซานโต๊ส แดนกลาง มี คิม ชุลโฮ จับคู่กับ วรชิต
กนิษศรีบำเพ็ญ โดยมี นูรูล ศรียานเก็ม และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เดินเกมริมเส้นขวา และ ซ้าย ขณะที่ ปกเกล้า อนันต์ เล่นเป็นหน้าต่ำ แล้วให้ โรดิโก้ เวเจริโอ้ เป็นหน้าเป้า
ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมนี้ มี ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสาเช่นเคย ขณะที่ผู้เล่นหลักคนอื่นๆยังคงอยู่กันแบบพร้อมหน้า ทั้ง ธีราทร บุญมาทัน, สุเชาว์ นุชนุ่ม, อนาวิน จูจีน และแข้งต่างชาติอย่าง อันเดรส ตูเนญ, โก ชุนกิ, ไคโอะ เฟลิเป้ ฯลฯ
ครึ่งแรกเริ่มการแข่งขันได้ 6 นาที บุรีรัมย์ฯ ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ อนาวิน จูจีน หลุดเดี่ยวเกือบถึงกรอบเขตโทษ แต่ แอนเดอร์สัน ดอส ซานโต๊ส เข้ามาสกัดออกไปได้ จากนั้นนาทีที่ 11 “ปราสาทสายฟ้า” ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกจากฝั่งซ้าย สุเชาว์ เล่นลูกสูตรต่อให้ ไคโอะ ซัดด้วยซ้าย บอลไปอัดเข้าใต้คาง คิม ชุล โฮ จนกองกลางชาวเกาหลีใต้ ลงไปกองกับพื้น เล่นต่อไม่ไหว และ ถูกเปลี่ยนตัวออก ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล เอกชน บุรีรัมย์ เพื่อเช็คอาการอย่างละเอียดทันที
นาทีที่ 21 ทีมเยือนได้โอกาสลุ้นจากจังหวะฟรีคิก 30 หลา กรกช วิริยอุดมศิริ ปั่นด้วยซ้าย แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายด่านเจ้าถิ่นบินมาปัดออกหลังไปได้ ทั้งสองฝ่ายต่างพยายามทำเกมบุกขึ้นมา แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของฝั่งตรงข้ามได้สำเร็จ กระทั่ง น.31 แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮลั่นสนาม จากจังหวะที่ โก ซุล กิ เปิดบอลให้ คิม ซึง ยอง กระชากเข้าไปหน้ากรอบเขตโทษ แต่ แนวรับฉลามชลเข้ามาเบียด ทำให้ คิม ซึง ยอง ดีดบอลคืนหลังให้ สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีม วิ่งสอดขึ้นมาซัดด้วยขวาเน้นๆ ตุงตาข่าย
บุรีรัมย์ฯ ขึ้นนำ 1-0 และ จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง เริ่มเกมได้เพียง 5 นาที บุรีรัมย์ฯ หนีห่างออกไป เป็น 2-0 เมื่อ สุเชาว์ นุชนุ่ม ปั่นฟรีคิกจากมุมธงฝั่งขวา บอลข้ามหัว ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ ที่จะออกมาตัดบอล ไปเข้าทาง
อันเดรส ตูเนซ ล้มตัวโหม่งไม่พลาด
แม้จะมีสกอร์ตามหลัง 2 ประตู แต่พลพรรค “ฉลามชล” ไม่ยอมแพ้ นาทีที่ 64 ประตูตีไข่แตกได้สำเร็จ นูรูล ศรียานเก็ม เปิดฟรีคิกเข้ามาที่กลางประตู เลอันโดร อัสซัมเซา
ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง โหม่งย้อนหลัง หนีมือนายทวารเจ้าถิ่น เข้าประตูไปอย่างง่ายดาย ชลบุรีฯ ไล่มาเป็น 1-2
จากนั้นในนาทีที่ 80 นูรูล ศรียานเก็ม ชิงบอลมาจากความผิดพลาด ของ ธีราทร บุญมาทัน แนวรับเจ้าถิ่น ก่อนส่งให้ โรดริโก แวร์จิลิโอ ตั้งป้อมยิงด้วยซ้ายบอลชนเสาเหลี่ยมในตุงตาข่าย “ฉลามชล” ตามตีเสมอได้สำเร็จ เป็น 2-2 เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอกันอยู่แล้ว แต่ช่วงนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บฯ บุรีรัมย์ฯ ก็มาได้ประตูชัย จากจังหวะชุลมุนที่หน้าประตู และเป็น คิม ซึง ยอง ที่ในจังหวะสุดท้ายเป็นผู้ส่งบอลตุงตาข่าย ทำให้หมดเวลาของการแข่งขัน ชลบุรี เอฟซี จะบุกมาพ่าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปอย่างน่าเสียดาย 2-3