ใครจะเชื่อว่าหนุ่มน้อย ที่ใช้กีฬาฟุตบอล รักษาตัวเองให้หายจาก โรค ธาลัสซีเมีย ในวัยเด็ก จะก้าวมาสู่การเป็นอีก 1 ในขุมกำลังสำคัญ ของ สโมสร ชลบุรี เอฟซี ซึ่งจากฟอร์มการเล่น, ผลงานในสนาม รวมไปถึงสถิติต่างๆ ต้องยอมรับเลยว่า ณ เวลานี้ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว คือ 1 ในอนาคตของ ทีมชาติไทย อย่างแน่นอน
แต่ด้วยการเป็นผู้เล่นในเกมรุก ที่มักจะใช้สกินใช้ทักษะ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงบอลหลบหลีก คู่ต่อสู้เพื่อไปสร้างโอกาส หรือ ยิงประตูให้กับทีม มักจะต้องแลกมาด้วยการเข้าสกัดการเข้าปะทะหนักๆอยู่เสมอ กลัวเจ็บไหม
ผมไม่กลัว ผมว่ามันสนุกดี สำหรับฟุตบอล ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่มันต้องมีปะทะ ชนกัน เตะกันบ้างแต่เอาตรงๆ โดนเตะกับเป็น ธาลัสซีเมีย มันยังเทียบกันไม่ได้เลย ผมคิดอยู่เสมอว่า วันนี้ถ้าผมไม่มีฟุตบอล ผมคงต้องกินยารักษา โรค ธาลัสซีเมีย ไปตลอด
คุณหมอวินิฉัยว่า “หนึ่ง” เป็นโรค ธาลัสซีเมีย ซึ่งก็คือโรคโลหิตจางชนิดหนึ่งที่ถ่ายทอด ทางพันธุกรรม และสามารถทำให้คนที่ป่วยเสียชีวิตได้ โดยคุณหม แนะนนำว่าให้ “หนึ่ง” ออกกำลังกาย หรือ เล่นกีฬาเยอะๆ
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่พา ดาวเตะหมายเลข 7ทแห่งทัพ “ฉลามชล” เริ่มต้นเล่นกีฬาชนิดต่าง จนมาถึงฟุตบอล เป็นลำดับสุดท้ายิก่อนที่จะเอาจริงเอาจัง จนอาการป่วยเป็นโรค ธาลัสซีเมียมดีขึ้นเรื่อยๆ จนหายเป็นปกติ
การที่เขาใช้ความอดทน ความพยายาม มอบทั้งกายและใจให้กับฟุตบอล อย่างเต็มที่นั้นนอกเหนือจากมันจะนำพาตัวเขาเองหายขาดจากโรคร้ายแล้ว มันยังนำพาให้เข้าก้าวเดินไปสู่ความฝัน จากความสำเร็จในฟุตบอลระดับเยาวชน ต่อยอดสู่การเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล ไปค้าแข้งที่ประเทศสเปน การข้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ และ สืบทอดตำนานหมายเลขท7 อันทรงคุณจากรุ่นสู่รุ่น แห่ง ทัพ “ฉลามชล” แล้วขึ้นมาสู่สาระบบของทีมชาติไทยชุดใหญ่อย่างเต็มภาคภูมิ
สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องสะท้อนและแสดงให้เห็นแล้วว่า “คนเรานั้นมักจะก้าวเดินไปพบเจอกับอุปสรรค์ อยู่เสมอ แต่เมื่อใดก็ตาม ที่เราเชื่อมั่นในสิ่งที่เราฝัน มุ่งมั่น สู้ และ ไม่ยอมแพ้ เราจะสามารถก้าวข้ามทุกอุปสรรค์ และ ประสบความสำเร็จ รวมถึงความฝันไม่ให้เป็นแค่ความฝัน และ ฝันนั้นจะเป็นจริงได้ เหมือนที่ “หนึ่ง” พิสูจน์ให้เห็นแล้ววันนี้นั่นเอง