หากจะพูดถึงนักเตะ ที่ถือว่ากำลังโชว์ฟอร์มได้ดี และ มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้ในอนาคต ของ สโมสร ชลบุรี เอฟซี เวลานี้ ชื่อของ “แซม” กิตติพงษ์ แสนสนิท แบ็คซ้าย วัย 24 ปี คงจะเป็นชื่อในลำดับต้นๆที่แฟนบอลจะนึกถึงอย่างแน่นอน

เพราะตลอดช่วงที่ผ่านแข้งรายนี้ ถือเป็นขุมกำลังหลัก ของทัพ “ฉลามชล” มาโดยตลอด หลังจากลงสนามไปทั้งสิ้น 22 นัดรวมทุกรายการ (1079 นาที) นั่นเอง “แซม” เป็นชาว กรุงเทพมหานคร เกิดเมื่อวันที่ 22 มี.ค.2542 เป็นนักเตะที่ผ่านการลงเล่นในเวทีลูกหนังขาสั้น ให้กับ โรงเรียน อัสสัมชัญ ธนบุรี มาอย่างโชกโชน
 
ก่อนจะเข้าสู่รั้ว “กิเลนผยอง” แล้วถูกส่งไปสร้างเสริมประสบการณ์ลูกหนังกับ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด, อุดรธานี เอฟซี และ บางปะอิน อยุธยา จนกระทั่งฟอร์มไปเข้าตา มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยคนในปัจจุบัน ที่ในเวลานั้นเป็นกุนซือของ สมุทรปราการ ซิตี้ ดึงตัวมาร่วมงาน ในฤดูกาล 2021/22 ก่อนย้ายมาร่วมทัพ “ฉลามชล” ในฤดูกาล 2022/23

ขณะที่เส้นทางกับทีมชาติไทยนั้น แบ็คซ้ายรายนี้ผ่านการแข่งขันในนามเยาวชนทีมชาติไทยมาแล้วทุกชุด ในระดับเยาวชนทั้ง ยู-12, ยู-14, ยู-16, ยู-18, ยู-22 และ ยู-23

โดยจุดเริ่มต้นบนเส้นทางสายลูกหนังของ “แซม” จริงๆแล้วเขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลในตำแหน่งกองหน้า และเริ่มมาเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย ตอน ม.1 โดยมี ณัฐพงษ์ สมณะ เป็น ไอดอล

“ผมเริ่มเข้ามาเล่นบอลจริงๆจังๆ ตอนเข้า ร.ร. บ้านบางกะปิ ตอนนั้นป.4 แล้วก็เล่นมาตลอด แล้วก็มาเข้าอัสสัมชัญธนบุรี ตอนม.1 ครับ ส่วนการเล่นบอลอาชีพครั้งแรกตอนอายุ 18 ปี ตอนนั้นเล่นให้ทีม อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ใน T4”

“จริงแล้วผมเล่นบอลตอนเด็กๆ ผมเริ่มเล่นในตำแหน่งกองหน้าครับ จากนั้นปรับตำแหน่งมาเรื่อยๆจนสุดท้ายตอนคัดเข้ามา อัสสัมชัญ ธนบุรี ผมเล่นแบ็คซ้าย และก็เล่นตำแหน่งนั้นเรื่อยมา ผมมาว่าการเล่นแบ็คซ้าย ต้องมีความฟิตแล้วก็ต้องเข้าใจเกมให้มากๆ เพราะการเล่นแบ็ค ต้องเล่นทั้งเกมรุก ทั้งเกมรับ เพราะตำแหน่งแบ็ค ผมถือว่าเป็นส่วนสำคัญของทีม”

“ซึ่งก็ชื่นชอบการเล่นของ “พี่เหมี่ยว” ณัฐพงษ์ สมณะ อดีตรุ่นพี่นักเตะ ชลบุรี เอฟซี ของเรา “พี่เหมี่ยว” เป็นทุกอย่างสำหรับผมเลย เป็นทั้งไอดอล เป็นทั้งพี่ที่คอยให้คำปรึกษา ทุกวันนี้เวลาท้อผมทักไปปรึกษาเขาตลอด”

แม้ว่าเคยผ่านเวทีลูแกหนังขาสั้น เล่นฟุตบอลอาชีพมาแล้วมากมาย รวมถึงเคยผ่านการติดทีมชาติมาแล้วทุกคน แต่ในชีวิตนักเตะต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการต่อสู้เพื่อโอกาสในการลงสนาม “แซม” เล่าถึงการเตรียมความพร้อมในส่วนนี้ว่า

“ในทีมมันต้องมีการแข่งขันกันอยู่แล้ว เพื่อโอกาสในการลงสนาม ส่วนตัวผมมองว่าทุกครั้งที่ซ้อม เราต้องมีความพร้อมเสมอ ทั้งในเรื่องการกินหรือการเตรียมร่างกาย เทคนิคง่ายๆของผมก็กินให้ถึง นอนให้อิ่ม แค่เลยครับ แต่ต้องคิดตลอดว่า ซ้อมก็เหมือนแข่ง ถ้าเราซ้อมไม่ดี ถ้าไปแข่งเราก็จะเล่นไม่ดี และเมื่อได้รับโอกาสลงสนามแล้ว ผมพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด เรารู้ตัวเองอยู่แล้วเราขาดอะไร เราก็ต้องซ้อมให้มากกว่าคนอื่น ผมคิดเสมอ โอกาสมันมาหาเราได้ทุกเวลา”

เป้าหมายสูงสุด “แซม” คือการลงเล่นให้กับ ทัพ “ฉลามชล” ให้มากที่สุด เพื่อต่อยอดไปสู่การติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ และ โอกาสในการเดินทางไปค้าแข้งในต่างประเทศ ซึ่งนั่นคือเป้าหมายสูงสุดของเขาในอาชีพการค้าแข้ง

“เป้าหมายตอนนี้ ขอให้ได้ลงเล่นกับ ชลบุรี เอฟซี เยอะๆก่อน ช่วยทีมให้ได้มากที่สุด และแน่นอนทุกคนมีความฝันในการเล่นทีมชาติชุดใหญ่อยู่แล้ว ผมก็เช่นกัน และสุดท้ายความฝันสูงสุดของผมคือยากมีโอกาสไปเล่น ใน เจลีก เหมือนกับพี่ๆทีมชาติไทยของเราหลายๆคนด้วย”

“แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้น ผมว่ามันต้องเริ่มต้นจากการมีทัศนะคติที่ดีในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพก่อน เพราะนักฟุตบอล ไม่ใช่แค่การเล่นบอลเก่งอย่างเดียว มันต้องใส่ใจการอยู่นอกสนามด้วย ต้องดูแลตัวเอง บางคนอาจจะบอกไม่ต้องดูแลก็เล่นได้ ก็ถูก แต่มันมีผลระยะยาวครับ”