ขอโทษจากใจ! ฉลามชล พ่ายโทษ เชียงรายฯ 5-4 พลาดแชมป์ ช้าง เอฟเอคัพ

การแข่งขัน ฟุตบอล ช้าง เอฟเอคัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 11 เม.ย. 64 เกมระหว่าง “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี พบ “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เวลา 18.00 น.

รายชื่อ 11 ผู้เล่น ของทั้ง 2 ทีมในเกมนี้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด : สรานนท์ อนุอินทร์ (GK), ชินภัทร ลีเอาะ, บรินเนอร์ เอ็นริเก้, วสันต์ ฮมแสน, ธนะศักดิ์ ศรีใส, โช จี ฮุน, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ศนุกรานต์ ถิ่นจอม, ศิวกรณ์ เตียตระกูล, ชัยวัฒน์ บุราญ, บิลล์ โรซิมาร์

ชลบุรี เอฟซี : ชนินทร์ แซ่เอียะ (GK), นพนนท์ คชพลายุกต์, ทรงชัย ทองฉ่ำ, สัมพันธ์ เกษี, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, กฤษดา กาแมน, เรนาโต้ เคลิช, สหรัฐ สนธิสวัสดิ์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, เอลิอันโดร กอนซากา

เริ่มเกมในครึ่งแรก เปิดฉากมาเป็น สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เปิดฉากบุกใส่ทันที โดย ชลบุรี เอฟซี ลงไปรับแน่นในแดน แล้วหาจังหวะโต้

โอกาสลุ้นประตูครั้งแรกในเกมนี้ มาจังลูกโต่กลับเร็ว ของ ชลบุรี เอฟซี บอลเริ่มจาก สัมพันธ์ เกษี แทงออกซ้าย ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว พาบอลลากจี้ขึ้นมา แล้วจากต่อให้ เอลิอันโดร กอนซากา ก่อนไหล่ต่อในจังหวะสุดท้าย ให้ สัมพันธ์ เกษี ได้ยิงบอลเบาเกินไป เข้ามือ สรานนท์ อนุอินทร์

นาทีถัดมา โอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง ของ ชลบุรี เอฟซี คราวนี้ เป็น เอลิอันโดร กอนซากา ที่ได้ยิงในกรอบเขตโทษ โดยยิงไปติดบล็อกแนวรับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ก่อนผู้ตัดสินจะยกธงเป็นลูกล้ำหน้า

ชลบุรี เอฟซี เริ่มครองเกมได้มากขึ้น ลูกเปิดจากริมเส้นฝั่งซ้าย ของ สัมพันธ์ เกษี ไปให้ นพนนท์ คชพลายุกต์ ที่เติมเกมขึ้นมา ชาร์ตเสาแรก บอลหลุดเสาแรก ออกไปแบบมีลุ้น

นาทีที่ 15 สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่หาจังหวะเจาะแนวรับ ชลบุรี เอฟซี ได้ลุ้นจากลูกยิงไกล ของ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ที่ยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้ามือ ของ ชนินทร์ แซ่เอียะ

บอลทางขวา ของ ชลบุรี เอฟซี สร้างจังหวะจากเกมโต้กลับ แล้วได้ลุ้นประตูขึ้นนำอีกครั้ง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ดีดบอลตรงกลางออกไปให้ นพนนท์ คชพลายุกต์ เลี้ยงจี้เข้าตัดเข้าใน ก่อนตัดสินยิงบอลออกหลังไป

รูปเกมหลังผ่าน 30 นาทีแรก ทั้ง 2 ทีมยังทำเกมแบบรัดกุม ซึ่งทั้ง 2 ทีม มีโอกาสได้ลุ้นประตูขึ้น แต่ไม่มีฝ่ายใดเปลี่ยนโอกาสที่มีให้เป็นประตูขึ้นนำได้ สกอร์ยัง 0-0

นาทีที่ 31 ชลบุรี เอฟซี มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ลูกฟรีคิกโดย กฤษดา กาแมน เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ชาร์ตจ่อๆเข้าไป ชลบุรี เอฟซี ขึ้นนำ 1-0

หลังเสียประตู สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด โหมบุกใส่ทันที และได้ลุ้นประตูตีเสมอแบบทันควัน จาก บิลล์ โรซิมาร์ แต่ติดเซฟ ของ ชนินทร์ แซ่เอียะ

จังหวะต่อมา ชลบุรี เอฟซี เกือบหนีห่างเป็น 2-0 จาก ลูกโหม่ง ของ เอลิอันโดร กอนซากา ที่โหม่งผ่านมือ สรานนท์ อนุอินทร์ ไปแล้ว แต่ทว่า ยังมีแนวรับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มาสกัดทิ้งจากเส้นไปได้

นาทีที่ 40 สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะพลาด ของ นพนนท์ คชพลายุกต์ จากไปติด ชัยวัฒน์ บุราญ ก่อนจ่ายเข้ากลางมาให้ ศิวกรณ์ เตียตระกูล ยิงเข้าไปตูไป สกอร์กลับมาเสมอกันที่ 1-1 ก่อนจบครึ่งแรก ไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กลับมาแก้เกมด้วยการถอดเอา ชัยวัฒน์ บุราญ ออก แล้วส่ง เฟลิเป้ ดาซิลวา อโมริม ลงมาเล่นแทน โดยยังคงเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกใส่ ชลบุรี เอฟซี เช่นเดิม

ชลบุรี เอฟซี ที่ลงไปรับในแดนแน่น พยายามหาจังหวะโต้กลับ โจมตี สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด บ้าง แต่ยังไม่มีจังหวะชัดเจน ในพื้นที่สุดท้ายมากนัก

เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกม ทั้ง 2 ทีม ดูไม่รีบเร่งเล่นเกมรุก เน้นครองบอลแล้วค่อยๆสร้างจังหวะทำเกมบุกลุ้นประตู สกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 1-1

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ปรับแท็คติกด้วยการเปิดเกมบุกใส่ ชลบุรี เอฟซี อีกครั้ง หลังทยอยเปลี่ยนแนวรุกลงสนาม ส่วน ชลบุรี เอฟซี เริ่มขยับผู้เล่นสำรองบ้าง โดยถอดเอา สัมพันธ์ เกษี ออก แล้วส่ง ภานุพงศ์ พลซา ลงเล่นแทน

เกมโต้กลับ ของ ชลบุรี เอฟซี เกือบมาได้ประตูขึ้นนำในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลูกยิง สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ ในกรอบเขตโทษ แต่ติดบล็อก ถัดมา สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เองก็ได้ลุ้นจาก ลูกโหม่ง ของ บิลล์ โรซิมาร์ ได้โหม่ง แต่ ชนินทร์ แซ่เอียะ รับอยู่มือ

ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่ม จบ 90 นาที เสมอกันอยู่ที่ 1-1 ต้องตัดสินผู้ชนะด้วยการต่อเวลาพิเศษออกไปอีกครึ่งละ 15 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มาได้ลุ้นประตูขึ้นนำ บอลของ อัครวิน สวัสดี รับบอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนหาจังหวะยิง บอลพุ่งไปเข้ามือ ชนินทร์ แซ่เอียะ ที่อ่านจังหวะได้ดีบินมารับไว้ได้อีกครั้ง

ส่วน ชลบุรี เอฟซี ยังได้ลุ้นจากเกมโต้กลับ เสฏฐวุฒิ วงสาย พาบอลลากจี้เข้าไปได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่บอลเบาเกินไป สรานนท์ อนุอินทร์ รับสบาย

จังหวะใกล้เคียงการได้ประตูที่สุด เป็น ของ ชลบุรี เอฟซี จังหวะที่ บรินเนอร์ เอ็นริเก้ สกัดบอลก่อนที่ ภานุพงศ์ พลซา กำลังจะเข้าชาร์ต บอลผิดเหลี่ยมเกือบเปลี่ยนทางเข้าประตู แต่โชคยังได้ที่บอลยังข้ามคานออกหลัง

ขณะที่ในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง ชลบุรี เอฟซี พลาดโอกาสการการได้ประตูขึ้นนำไปอย่างเสียดาย บอลทางขวาโดย เสฏฐวุฒิ วงค์สาย เปิดในกรอบเขตโทษย้อนมาให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ยิงไปติดบล็อค บรินเนอร์ เอ็นริเก้ ออกหลังนิดเดียว ก่อนมีจังหวะอีกครั้ง จากลูกยิง ของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ในกรอบเขตโทษ แต่ยังติดเซฟ สรานนท์ อนุอินทร์ จากนั้นไม่มีทีมใด ทำประตูได้ ต้องมาหาผู้ชนะกันต่อด้วยการดวลลูกโทษที่จุดโทษ

และเป็น สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ยิงได้แม่นยำกว่าเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 5-4 คว้าแชมป์ไปครอง สวน ชลบุรี เอฟซี คว้ารองแชมป์ ปิดฉากการแข่งขัน ศึก ช้าง เอฟเอคัพ 2020