อมาดู อ็อตตาร่า “จากตัวจริง สู่ตัวสำรอง” แข้งผู้ไม่เคยปริปากบ่น ต่อสู้จนกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง

แข้งต่างชาติชาวโกตดิวัวร์ ผู้ค้าแข้งอยู่ในเวทีฟุตบอลของประเทศไทย มายาวนานกว่า 12 ปี กับต้นสังกัดที่เขาเคยรับใช้ทั้ง 4 สโมสร ได้แก่ พีทีที ระยอง, ราชนาวี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และปัจจุบันกับ ชลบุรี เอฟซี

ภาพจำของอมาดู ในสนามเขาเป็นปิกความเร็วสูง แข็งแกร่ง ดุดัน ไม่ล้มง่ายๆ แต่ชีวิตภายนอกสนามนั้น เขากลับเป็นคนง่ายๆ พูดน้อย ไม่ค่อยออกสื่อ ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองอย่างเดียว แถมด้วยความที่เจ้าตัวอยู่เมืองไทยมานานกว่า 12 ปี ทำให้สามารถสื่อสารภาษาไทย ได้อย่างไม่มีปัญหา


อมาดูย้ายมาค้าแข้งในประเทศไทยครั้งแรกกับ ‘พลังเพลิง’ พีทีที ระยอง ในศึก เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2 ในปัจจุบัน) ตั้งแต่ปี 2011 โดยอยู่ค้าแข้งกับทีมถึง 7 ฤดูกาล ลงสนามไปทั้งหมด 56 นัด ยิงไป 11 ประตู พาทีมเลื่อนชั้นสู่ ไทยลีก 1 ได้ในปี 2014 แต่อยู่ได้เพียงฤดูกาลเดียว ก็มีอันต้องกระเด็นตกชั้นกลับมาสู่ ไทยลีก 2 อีกครั้ง อมาดูค้างแข้งอยู่กัทีม “พลังเพลิง” ต่อถึงปี 2017 ก่อนจะอำลาทีม ย้ายไปร่วมทัพสโมสร ราชนาวี ในปี 2018

จาก 7 ปีแรกในไทย สู่การออกผจญภัยครั้งใหม่

อมาดูเปิดตัวกับ ราชนาวี ด้วยการยิงประตูแรกให้กับทีมได้ ในเกมที่บุกไปพ่ายให้กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-5 โดยตลอดทั้งฤดูกาล ริมเส้นชาวโกตดิวัวร์ ทำประตูไปได้ทั้งหมด 13 ประตู อย่างไรก็ตาม ด้วยผลงานของทีมที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้สโมสร ราชนาวี ที่จบฤดูกาลด้วยอันดับ 16 ต้องหล่นลงไปเล่นใน ไทยลีก 2 เมื่อจบฤดูกาลดังกล่าว อมาดูก็ย้ายไปร่วมทัพ “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โดยอยู่ค้าแข้งกับทีมดังจากแดนอีสาน 3 ปีด้วยกัน ลงสนาม 85 นัด ยิงไป 12 ประตู ก่อนจะออกเดินทางอีกครั้ง ด้วยการย้ายมาร่วมทัพ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี

จากกำลังหลักไปในปีแรก สู่แข้งที่ต้องรอโอกาส ที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่

กระทั่งในฤดูกาล 2022 อมาดู อ็อตตารา ได้ย้ายมาร่วมทีม “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสิร์ฐ โดยเซ็นสัญญากันเป็นระยะเวลา 2 ปี


ภายใต้สีเสื้อฉลามชล อมาดูโชว์ผลงานได้อย่างร้อนแรง เป็นกำลังหลักของทีม คอยประสานงานร่วมกับแข้งยังบลัดของทีม ตัวต่างชาติ และแข้งวัยเก๋าคนอื่นๆ

ด้วยประสบการณ์โชกโชนในไทย และความมุ่งมั่นอันเต็มเปี่ยม ทำให้ อมาดู ระเบิดฟอร์มที่ดี เขาพา ชลบุรี เอฟซี บินสูงถึงจ่าฝูงของตารางคะแนนหลังจบเลกแรก

แม้ในครึ่งหลังของฤดูกาล ฉลามชลจะฟอร์มดร็อปลงไปอย่างน่าใจหาย จบได้เพียงอันดับ 6 บนตรางคะแนน โดยอมาดูลงสนามไปทั้งหมด 25 นัด ยิงไปทั้งสิ้น 6 ประตู เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2022 แข้งต่างชาติของทีมก็ทยอยกันอำลาทีมออกไป เหลือเพียงตัวเขา ที่ยังอยู่สู้ต่อไป


หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2023 สโมสรเปิดตัวกุนซือชาวญี่ปุ่น มาโกโตะ เทกุระโมริ เข้ามากุมบังเหียน พร้อมกับการพาเรดเข้ามาของแข้งต่างชาติแบบยกเซ็ต ได้แก่ วิลเลี่ยน ลิร่า, มูริโล่ เฟรตัส, ยานนิค โบ่ และ อี ชานดง นั่นทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงกับโควต้าต่างชาติ โดยเฉพาะในรายของ มูริโล่ เฟรตัส ที่เป็นผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกับ อมาดู


แม้ในช่วง 3 เกมแรกของฤดูกาล อมาดูจะได้รับโอกาสลงสนามติดกันถึง 3 เกม เนื่อง มูริโล่ เฟรตัส มีปัญหาเรื่องอาการป่วย แต่ด้วยความที่ทีมนั้นไม่สามารถชนะใครได้เลยตลอด 3 เกม ทำให้เขาถูกดร็อปออกจากทีม ไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง ถูกแข้งชาวบราซิลยึดโควต้ากลับไป


แต่ด้วยผลงานของทีมที่เข้าขั้นโคม่า ชนะในลีกไปเพียง 2 เกม บวกกับฟอร์มของ มูริโล่ เฟรตัส ที่ดูจะยังไม่สามารถประสานงานกับแข้งไทยได้เท่าที่ควร ทำโอกาสของเขากลับมาอีกครั้งในเกมที่ออกไปเยือน สุโขทัย เอฟซี โดยเขาทำแอสซิสต์ได้ 1 ลูก แม้สุดท้ายแล้วทีมจะพ่ายไปด้วยสกอร์ 2-3 จนการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นในทีมอีกครั้ง เมื่อนายใหญ่ชาวญี่ปุ่น มาโกโตะ เทกุระโมริ ประกาศลาออกเพื่อเป็นการรับผิดชอบผลงาน ที่พาทีมจมอยู่รองบ๊วยของตารางคะแนน


อมาดู ไม่สนใจต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ เขายังคงก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อมต่อโดยไม่ปริปากบ่น ตั้งใจทำงานของตัวเอง เพื่อที่เมื่อได้รับโอกาส เขาจะพร้อมอย่างที่สุด

และโอกาสนั้นก็มาถึง อมาดูกลับมามีชื่อลงตัวจริงอีกครั้ง ในเกมที่ออกไปเยือนทีมบ๊วยของตาราง อย่าง พีที ประจวบ เอฟซี โดยเขาทำประตูไปได้ 1 ลูก แต่ก็ไม่เพียงพอ จบเกม ฉลามชล พ่ายไปด้วยสกอร์ 1-3 สุ่มเสี่ยงต้องดิ้นรนหนีตกชั้นในปีนี้


ถึงตอนนี้ เกมลีกผ่านมาแล้ว 13 นัด โดยยังเหลือเกมเปิดบ้านพบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด และเกมนัดตกค้าง ที่จะเปิดบ้านพบกับ จ่าฝูง อย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ส่วนทางด้านเกมบอลถ้วย อมาดูได้รับเลือกให้เป็นตัวหลักมาโดยตลอด ในลีกคัพ รอบ 64 ทีม อมาดูจัดการยิง 1 ประตู เขี่ย สมุทรปราการ ซิติ ตกรอบไปด้วยสกอร์ 2-0 และอีก 1 รายการสำคัญอย่าง ช้าง เอฟเอ คัพ ในรอบ 64 ทีม ชลบุรี เอฟซี เอาชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ไปได้ 3-0 ด้วย 1 แอสซิสต์จากตัวเขา และในเกมล่าสุด รอบ 32 ทีม กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อมาดูยังคงได้ลงสนามเป็นตัวจริงต่อเนื่อง พาทีมยันเสมอในเวลา 2-2 ก่อนจะดวลจุดโทษตัดสิน และคว้าชัยมาได้ด้วยสกอร์รวม 6-4 ผ่านเข้ารอบต่อไป


ขณะนี้ เหลือการแข่งขันในเลกแรกอีก 2 นัด ชลบุรี เอฟซี อยู่ในดับที่ 15 ของตารางคะแนน เห็นได้ชัดว่าต้องเปลี่ยนเป้าหมายของทีม จากที่บอกว่าจะลุ้นแชมป์บอลถ้วย และติด 1 ใน 5 ของอันดับบนลีก มาเป็นการดิ้นรนหนีตกชั้นแทน ต้องมารอดูว่า “ฉลามชล” ในมือของอาจารย์ลูกหนังอย่าง “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ที่เกมล่าสุดกลับมาคว้าชัยได้แล้ว จะรักษาโมเมนตั้มของไว้ได้ต่อหรือไม่?

รวมถึง แข้งชาวโกตดิวัวร์รายนี้ จะยังได้รับโอกาสเป็นตัวจริงต่อไป หรือจะเกิดการเปลี่ยนอีกครั้งในเลกที่ 2 ต้องรอติดตามกันต่อไป