“ วิลเลียน ลิร่า” ดาวยิง (ที่จะ) ล้างอาถรรพ์หมายเลข 9 ของเครื่องแบบ ฉลามชล

ตำแหน่งหมายเลข 9 ในวงการฟุตบอลจะหมายถึงศูนย์หน้าตัวเป้าประจำทีม จนเมื่อฟุตบอลก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจจึงได้มีการกำหนดหมายเลขเสื้อประจำตัวให้นักเตะแต่ละคน

ซึ่งเสื้อหมายเลข 9 ก็ยังถูกสงวนไว้ให้กับผู้เล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าอยู่ เราจึงมักเห็นเจ้าของเสื้อหมายเลข 9 เป็นดาวซัลโวประจำทีมกันเป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ก็มักจะเป็นนักเตะคนสำคัญประจำทีมเสมอ แต่ในเวทีฟุตบอลไทยลีก ของทัพ “ฉลามชล” หมายเลข 9 กลับกลายเป็นเบอร์เสื้อต้องห้าม ที่เหมือนมีอาถรรพณ์อยู่ตลอดเวลา ว่า 17 ฤดูกาลเต็ม

นับตั้งแต่ ปี 2006 เริ่มต้นไทยลีกขวบปีแรกของฉลามชล ไม่มีใครเลือกใส่เสื้อเบอร์นี้ ต่อมาปี 2007-2008 วัชรพงษ์ มากกลาง กองหน้าดาวรุ่งจอมบู๊ ถือเป็นนักเตะคนแรก ที่เลือกสวมใส่เบอร์ 9 ในการแข่งขันไทยลีกให้กับชลบุรี โดยลงเล่นไปสองฤดูกาล รวมทั้งหมด 20 นัด (เป็นตัวสำรอง 19 นัด) ยิงได้เพียง 2 ประตู

ปี 2009 โจลสัน ดาซิลวา ศูนย์หน้าชาวบราซิล ถูก “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ดึงตัวเข้ามาร่วมทีมในเลกสอง โดยประตูเดียวที่เกือบทำได้ คือลูกโหม่งพังประตูจุฬาฯ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า และไม่สามารถหาดูรีเพลย์ลูกนั้นได้ ซึ่งอาจกลายเป็นประตูสำคัญของฤดูกาล (ลงเล่น 7 นัด 0 ประตู)

ปี 2010 จูลส์ บาก้า กองหน้าแคเมอรูน ชุดแชมป์ไทยลีก 2007 คัมแบ๊คกลับมาร่วมทีมฉลามชลอีกครั้ง แต่เสื้อเบอร์ 11 ถูกจับจองโดย ไมเคิ่ล เบิร์น มิดฟิลด์เวลส์ไปแล้ว ทำให้ต้องเปลี่ยนมาใส่เบอร์ 9 แม้จะได้แชมป์เอฟเอคัพ แต่ผลงานส่วนตัวก็ยิงได้เพียง 3 ประตูในลีกเท่านั้น จากการลงเล่น 22 นัด

ปี 2011 วลาดิเมียร์ ริบิช ศูนย์หน้าชาวเซอร์เบีย ได้รับการเซ็นสัญญาจาก “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ในวันเดดไลน์ก่อนตลาดปิด หลังผ่านการทดสอบฝีเท้า ลงเล่นให้ชลบุรี 11 นัด ยิงได้ 4 ประตู ได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าฉีกขาด จนต้องปิดเทอม ในจังหวะส่งบอลให้ สุรีย์ สุขะ ยิงประตู เกมลีกคัพกับบุรีรัมย์

ปี 2012 โธมัส ดอสเซวี่ ศูนย์หน้ามากประสบการณ์ ผู้เคยผ่านเวทีฟุตบอลโลก 2006 กับทีมชาติโตโกมาแล้ว ลงประเดิมสนามสร้างความตื่นตะลึงให้กับแฟนบอล ด้วยการตะบันแฮททริคใส่อีสาน ยูไนเต็ด แต่หลังจากนั้น 6 เดือน เขายิงประตูเพิ่มได้อีกแค่ลูกเดียว และฝากผลงานไว้ที่ 12 นัด 4 ประตู

ปี 2013 อีวาน บอสโควิช ดาวยิงระดับแชมป์เอเอฟซีคัพ เปิดตัวอย่างสวยหรู ด้วยการยิงประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บในสองแม็ตช์แรก ไล่ตีเสมอ เทโร 2-2 และประตูชัยเฉือนชนะอาร์มี่ 1-0 แต่หลังจากนั้นเขายิงเพิ่มได้อีกแค่ประตูเดียว เลกสองถูกยืมตัวไปศรีราชา เอฟซี โดยลงเล่นไป 10 นัด ยิง 3 ประตู

หลังจากนั้นเป็นเวลาถึง 4 ปี (2014-2017) ที่ไม่มีใครหาญกล้า หยิบเสื้อหมายเลข 9 มาใส่อีกเลย โดยปี 2016 เลกสอง ปรินซ์ อัมปองซ่า ถูกดันขึ้นมาจากทีมเยาวชน และขอใส่เบอร์ 9 ที่ว่างอยู่ แต่ถูกสโมสรขอให้เปลี่ยนให้ไปใส่เบอร์ 29 แทน และจบฤดูกาลด้วยการลงเล่น 12 นัด ยิง 8 ประตู แจ้งเกิดได้สำเร็จ

ปี 2018 มาร์เคล ซานโต๊ส ดาวยิงดีกรีรองดาวซัลโวลีกอินโดนีเซีย ที่ซัดไป 24 ประตู เป็นคนแรกในรอบ 4 ปี ที่เลือกใส่เบอร์ 9 ให้ฉลามชล แต่เจ้าตัวต้องประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอดเวลา โดยลงเล่นไป 12 นัด ยิงได้ 3 ประตู และถูกยืมตัวไปอยู่ โฮจิมินห์ เอฟซี ในเลกที่สอง

ปี 2019 ลูเคียน อาราอูโจ้ ต้องการใส่เบอร์นี้เหมือนกับที่เคยใส่กับพัทยา ยูไนเต็ด และทำผลงานได้ดี (ยิง 18 ประตู) แต่หลังจากที่อ่านข้อมูลอาถรรพณ์หมายเลข 9 แล้ว ขอเปลี่ยนไปใส่เบอร์ 91 โดยลงเล่นไป 14 นัด ยิง 11 ประตู และได้ย้ายไปเล่นเจลีก กับ จูบิโล่ อิวาตะ ในเลกที่สอง

ปี 2022 ดานิโล่ อัลเวส ศูนย์หน้าชาวบราซิล ย้ายมาร่วมทีมชลบุรี และไม่ต้องการสวมใส่หมายเลข 9 เนื่องจากตอนออกจากบราซิลไปเล่นต่างประเทศ ได้เลือกใส่เบอร์ 99 แล้วทำผลงานได้ดีมาตลอด จบฤดูกาลด้วยการลงเล่น 23 นัด ยิง 14 ประตู เป็นดาวซัลโวประจำฤดูกาลของสโมสร

แต่อย่างไรก็ตาม ฤดูกาล 2023/24 ที่เพิ่มเริ่มต้นขึ้น เข้าสู่เกมนัดที่ 2 ของฤดูกาล ในวันนี้ (21 ส.ค.) ดาวยิงชาวบราซิล ผู้มีนามว่า วิลเลียน ลิร่า เลือกที่จะรับมันไว้อย่างไม่ลังเลและลงสนามด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ โดยไม่สนเรื่องราวอาถรรพ์ที่ยาวนาน ของ หมายเลข 9 ของทัพ “ฉลามชล” แต่อย่างใด

วิลเลียน ลิร่า ย้ายมาจาก สโมสร เคดาห์ ดารุล อามัน ทีมในศึกฟุตบอลลีก ประเทศ มาเลเซีย เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม คศ 1993 ปัจจุบันอายุ 29 ปี สูง 185 ซม. เริ่มต้นค้าแข้งกับสโมสรในลีกบราซิล ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งนอกประเทศ กับสโมสร เอฟเค วาร์ดาร์ ในลีก นอร์ท มาซิโดเนีย ปี 2018, สโมสร เดรสทรอยเยอร์ ในลีกโบลีเวีย ปี 2019, สโมสร เวนท์ฟอเรท โคฟุ ในศึกเจลีก 2 ญี่ปุ่น ปี 2021-2022 พร้อมพาทีมประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยเอ็มเพอเรอร์ คัพ 2022 และ สโมสร เคดาห์ ดารุล อามัน ในลีก มาเลเซีย ปี 2023 จำนวน 14 นัด ยิงได้ 8 ประตู นี่คือเกียรติประวัติส่วนตัวของเขาก่อนตัดสินใจย้ายมาล่าตาข่ายในถิ่น ชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม จากการคัดเลือกของ มาโกโตะ เทกุระโมริ

เขาถูกจับตาจากแฟนบอล “ฉลามชล” ด้วยความคาดหวังอย่างเปี่ยมล้นว่า เขาจะสามารถลบล้างคำสาปหมายเลข 9 ของทีมได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามการออกสตาร์ทในเกมลีกสูงสุดของเมืองไทย 45 นาทีแรก ของ วิลเลียน ลิร่า เริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบเหงา แทบจะไม่มีโอกาสยิงประตูให้กับทีม รวมถึงมีส่วนร่วมในเกมรุกกับเพื่อนร่วมทีมเลย หลังจบ 45 นาทีแรก เสมือนว่า คำสาปหมายเลข 9 แห่งทัพ “ฉลามชล” กำลังทำงานอีกครั้ง

แต่ทว่าครึ่งหลังเริ่มมาถึงนาทีที่ 54 วิลเลียน ลิร่า จัดการยิงประตูแรกให้ ทัพ “ฉลามชล” ไล่ตามมา 1-2 ก่อนที่ นาทีที่ 65 หรืออีก 11 นาทีต่อมา เขาก็จัดการยิงประตูที่ 2 ของตัวเอง และเป็นประตูตีเสมอก่อนพาทีมเกม 1 คะแนนแรกมาครองได้สำเร็จ

สถิตตลอด 90 นาทีในเกมแรกของ วิลเลียน ลิร่า ได้บอล 33 ครั้ง ยิง 7 ตรงกรอบ 3 ทำ 2 ประตู ช่วยทีมคว้าแต้ม จากตาม 0-2 คว้าตำแหน่ง แมนออฟเดอร์แมตช์ ไปครอง

นั่นเหมือนเป็นการปลุกความหวังเล็กให้กับแฟนว่าแข้งรายนี้จะเป็นผู้ล้างคำสาป หมายเลข 9 ได้ในที่สุด

ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า ลิร่า จะสามารถลบอาถรรพ์เบอร์ 9 ต้องคำสาปของ ชลบุรี เอฟซี ได้หรือไม่ ในฤดูกาลนี้