และอีกชุดของ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย คือยังเติร์กรุ่น 23 ปี ที่มีสองหนุ่มเชียงใหม่ “เจ้ายิม” วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ “เจ้านุ” ภานุเดช ใหม่วงค์ และผู้รักษาประตูดาวรุ่ง จิรัญญพงษ์ ธรรมสีหา ที่ “ฉลามชล” ส่งเข้าประกวด ภายใต้การคุมทัพของ วรวุธ ศรีมะฆะ ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบคัดเลือก ที่คว้าตั๋วรอบสุดท้าย ไปแบบเรียกได้ว่าค่อนข้างทุลักทุเล แต่ก็พุ่งชนเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้สำเร็จ

แน่นอนว่าผลการแข่งขันแม้จะออกมาแบบไม่แฮปปี้แฟนๆ ฟุตบอลชาวไทยซักเท่าไร แต่ก็ต้องบอกว่าทีมของ “โค้ชโย่ง” โดนภัยธรรมชาติเล่นงานชนิดที่คอ่นข้างโหดร้าย หลังต้องเล่นในสภาพสนามที่ไม่เอื้อต่อรูปแบบการเล่น ถึง 2 จาก 3 เกม แต่ก็ถือว่ายังรอดตัว การเก็บ 5 แต้ม จาก  3 นัดก็เพียงพอจะส่งพวกเขาไปต่อ ตามเป้าหมายที่รอบสุดท้ายที่จีน

จากนี้ก็มี การแข่งขัน “ซีเกมส์” เวทีที่จะให้ “โค้ชโย่ง” และลูกทีมได้ทำผลงานลบล้างความผิดหวังของแฟนบอล ซึ่งจะหวดกันที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 12-31 สิงหาคมนี้ โดย ทีมชาติไทย อยู่กลุ่มบี ร่วมกับ ทีมชาติเวียดนาม ,ทีมชาติอินโดนีเซีย ,ทีมชาติกัมพูชา , ทีมชาติฟิลิปปินส์ และ ทีมชาติติมอร์ เลสเต้

ในส่วนของนักเตะฉลามชลที่ได้รับโอกาสโชว์ฝีเท้าในรายการที่ผ่านมา ภานุเดช ใหม่วงค์ และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ 2 เพลย์เมคเกอร์ของ “ชลบุรี” ก็ถือว่ายังไม่ได้โชว์ผลงานเท่าที่ควร ซึ่งโปรแกรมเกมลีกในช่วงส่งท้าย กรกฎาคม ไปจนถึง ต้นสิงหาคม พวกเขาต้องงัดฟอร์มเก่งกับสโมสรออกมาให้ได้ เพื่อ เพิ่มความมั่นใจก่อนไป ทำภารกิจป้องกันแชมป์ซีเกมส์ ที่มีความคาดหวังของแฟนๆ เป็นเดิมพัน