ลูเคี่ยน กด 5 ตุง! ฉลามชล เปิดรัง งับ พยัคฆ์ล้านนา สุดมันส์ 7-5

การแข่งขัน ศึกลูกหนัง ฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำวันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย.เวลา 19.00 น. “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับที่ 11 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน ของ เชียงใหม่ เอฟซี ทีมอันดับ 14

เกมนี้ “โค้ชโบ้” จักรพันธ์ ปั่นปี ปรับทัพ 1 ตำแหน่ง โดยส่ง สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ ลงเป็นตัวจริง แทนที่ ธีระพงษ์ ดีหามแห ที่มีอาการบาดเจ็บ จากการฝึกซ้อม ส่วน คาร์ลอส เอดูอาร์โด้ กุนซือทีมเยือน ไม่มีตัวเจ็บอย่าง นริศ ทวีกูล ที่ได้รับการบาดเจ็บหนัก แต่จะได้ตัวหลักที่ลงสนามไม่ได้ ในเกมก่อนหน้านี้ อย่าง โชติภัทร พุ่มแก้ว, เอกนิษฐ์ ปัญญา และ นนท์ ม่วงงาม ลงสนาม

เปิดฉากมาในครึ่งแรก ทีมเยือน มีโอกาสได้ลุ้นประตูออกนำอย่างรวดเร็ว จาก ลูกยิงด้วยซ้าย ของ มุสตาฟา อาซัดซอย ติดเซฟ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ที่ยังคว้าไว้ได้ ส่วน “ฉลามชล” ก็มีโอกาสลุ้นประตู 2 ครั้งติดๆเช่นกัน จาก ลูเคี่ยน อาราอูโจ้ และ แพทริค ครูซ แต่ก็ได้แค่หวาดเสียว

นาทีที่ 12 ชลบุรี เอฟซี พลาดโอกาส ได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย บอลขึ้นจากการบขวา ภานุพงศ์ พลซา พาบอลเข้าไปหาจังหวะยิงด้วยซ้าย นนท์ ม่วงงาม นายด่าน เชียงใหม่ปัดทิ้งไม่ขาด เกริกทธิ์ ทวีกาญจน์ ตามซ้ำ แต่บอลเข้าข้างตาข่าย

นาทีที่ 18 กองเชียร์ “ฉลามชล” ได้เฮกันลั่นสนาม เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปให้ ลูเคี่ยน อาราอูโจ้ ได้ชาร์จเน้นตุงตาข่าย ชลบุรี ออกนำ เชียงใหม่ เอฟซี 1-0
แต่ทว่า ดีใจได้เพียง 2 นาที “พยัคฆ์ล้านนา” ตามตีเสมอได้แบบทันควัน จากลูกยิงซ้ำ ของ มุสตาฟา อาซัดซอย ที่ตามซ้ำลูกยิง ของ จอนาตา แวร์ซูร่า ที่ยิงไปถูก กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ป้องกันไม่ดีในจังหวะแรก

จากนั้น ชลบุรี เอฟซี เร่งเครื่องอย่างหนัก และ สร้างโอกาสลุ้นประตูขึ้นนำได้ถึง 2 ครั้ง จาก ซอว์ มินตุน และ ลูเคี่ยน อาราอูโจ้ แต่ยังไปชนเสา และ โดนแนวรับ ทีมเยือน ช่วยกันป้องกันไว้ได้

นาทีที่ 31 ชลบุรี เอฟซี ที่ครองบอลทำเกมบุกได้ดีกว่า แต่ทำประตูออกนำไม่ได้ ก่อนจะมาโดนทีเด็ด ของ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่บอลลุยเดี่ยว แหวกแนวรับ ของ “ฉลามชล” เข้าไปยิงในกรอบเขตโทษง่ายๆ เชียงใหม่ เอฟซี พลิกกลับมานำ 2-1

“ฉลามชล” ยังคงเดินหน้าเปิดเกมบุกสู้แบบไม่ยอมแพ้ จนกระทั้งมาถึง นาทีที่ 40 แพทริค ครูซ โหม่งเช็ด ไปให้ ลูเคี่ยน อาราอูโจ้ ได้หลุดเดียวเข้าไปยิงสวนตัว นนท์ ม่วงงาม เป็นประตูตีเสมอ 2-2

จากนั้น กองเชียร์ เจ้าถิ่น ได้เฮกันต่อเนื่อง นาทีที่ 42 การประสานงานอันยอดเยี่ยม ของ เกริกฤธิ์ ทวีกาญจน์ และ ลูเคี่ยน อาราอูโจ้ ก่อนที่หัวหอกชาว บราซิลเลี่ยน จะเป็นผู้จบสกอร์ในจังหวะสุดท้าย ตุงตาข่าย เป็นสกอร์ขึ้นนำให้กับ “เจ้าถิ่น” 3-2 ท้ายครึ่งแรก ชลบุรี เอฟซี ได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 4-2 เมื่อแนวรับ ของ เชียงใหม่ เอฟซี ไปทำฟาลว์ ลูเคี่ยน อาราอูโจ้ ในกรอบเขตโทษ และ เป็น เจ้าตัว ที่ลุกขึ้นมาสังหารด้วยตัวเอง ไม่พลาด ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง รูปเกมยังเป็น ชลบุรี เอฟซี ที่ยังเป็นฝ่ายครองบอลเดินเกมบุกเข้าใส่ เชียงใหม่ เอฟซี เช่นเดิม นาทีที่ 52 บอลยาว ของ สหรัฐ สนธิสวสัดิ์ ไปให้ ภานุพงศ์ พลซา บอลลุยขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนไหล่ต่อไปให้ แพทริค ครูซ ได้ยิง แต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป

นาทีที่ 55 จังหวะสวนกลับเร็ว ของ เชียงใหม่ เอฟซี พังประตูไล่จี้มาติดๆอีกครั้ง เป็น 3-4 จากฝีเท้า ของ มุสตาฟา อาซัดซอย รูปเกมเพิ่มความสนุกมากขึ้น เมื่อ เชียงใหม่ เอฟซี เร่งเครื่อง เดินเกมบุก หวังทำประตูตีเสมอให้ได้ จนทำให้ “ฉลามชล” ต้องถอยลงไปรับในแดน แล้วหาจังหวะสวนบ้าง

นาทีที่ 66 ชลบุรี เอฟซี ได้ประตูหนีห่างอีกครั้งเป็น 5-3 บอลขึ้นเกมจากฝั่งซ้าย เริ่มต้นที่ อลงกรณ์ ประทุมวงศ์ จ่ายไปให้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ วางบอลตัดหลังแนวรับ เชียงใหม่ เอฟซี ไปถึง ลูเคี่ยน อาราอูโจ้ ใช้ความสามารถเฉพาะตัว พาบอลเข้าไปยิง หนีมือ นนท์ ม่วงงาม เข้าไป

บอลยาว จากกลางสนาม ออกไปฝั่งซ้ายให้ สีธูอ่อง แนวรุกชาว เมียนมา ตัวสำรองที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงมา ในครึ่งหลัง สีธูอ่อง พาบอลลากจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนยิงด้วยซ้ายเสียบสามเหลี่ยม เข้าไปอย่างสวยงาม ชลบุรี เอฟซี ขยับนำเพิ่ม เป็น 6-3

ช่วงเวลาที่เหลือ เชียงใหม่ เอฟซี พยายามเปิดเกมบุกสู้หวังทวงประตูคืน และมาได้ 2 ประตู ไล่ตามมาติดๆ เป็น 5-6 จาก วันใหม่ เศรษฐนันท์ ในนาทีที่ 89 และ เอลิอันโดร กอนซากา ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ ชลบุรี เอฟซี ก็มารวมพลังและทำประตูปิดกล่องเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 7-5 จาก จังหวะแอสซิส สุดสวยของ สีธูอ่อง ไปให้ สิทธิโชค ภาโส ยิงเข้าประตู ไป จบ 90 นาที ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้าน เอาชนะ เชียงใหม่ เอฟซี ไปได้ด้วยสกอร์ 7-5 เก็บ 3 คะแนนเพิ่มเป็น 11 คะแนน จาก 8 นัด

สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน นัดต่อไป ชลบุรี เอฟซี จะยกทัพ ออกไปเยือน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี วันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย. ณ สนาม เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา ในเวลา 18.00 น.