สโมสร ชลบุรี เอฟซี เปิดตัว “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ นั่งแท่นกุนซือคนใหม่ แทนที่ของ “โค้ชโบ้” จักรพันธ์ ปั่นปี ที่ลาออกไป รับผิดชอบผลงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
เมื่อช่วงบ่าย วันจันทร์ที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่สนาม ชลบุรี สเตเดี้ยม สโมสร ชลบุรี เอฟซี ได้ทำการเปิดตัว “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ หัวหน้าผู้ฝึกสอน คนใหม่ โดยมี คุณ อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสร, คุณ ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีม ร่วมเป็นสักขีพยาน
โดยภายหลังการเซ็นสัญญา และ เปิดตัวกับต้นสังกัดใหม่ “โค้ชเตี้ย” กล่าวถึงความรู้สึกหลังจรดปากกากับฉลามชล ผ่านทีมข่าว chonburifootballclub.com ว่า
“ผมว่าเป็นโมเม้นต์ที่ผมใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน เหตุผลอันดับแรกก็คือชลบุรี เป็นทีมที่อยู่ในความคิดของตัวเองที่วาดหวังไว้ว่านี่คือหนึ่งในทีมที่อยากร่วมงานด้วย และที่สำคัญชลบุรีเป็นทีมที่เป็นต้นแบบของวงการฟุตบอลไทยมานานมาก เพราะฉะนั้นผมไม่อิดออดที่จะเห็นภาพชลบุรีกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งนึง แน่นอนว่ามันอาจต้องใช้เวลา มันอาจจะต้องใช้การทำงานอย่างหนัก แต่มันก็รู้สึกภูมิใจกับการทำงานในชีวิตเหมือนกัน ภูมิใจที่ได้มีโอกาส ผมเชื่อว่าโค้ชทุกคนในประเทศไทยก็อยากร่วมงานกับทีมนี้อยู่แล้ว และผมก็ขออนุญาติฝากเนื้อฝากตัวด้วย”
“ส่วนในเรื่องของแพลนงานครั้งใหม่นี้ แน่นอนนโยบายของชลบุรีมันตรงกับที่ผมทำงานมาตลอด นั่นก็คือนโยบายปั้นเด็ก มันไม่เหมือนผมมาทำงานนะ มันเหมือนผมมาท่องเที่ยวในโลกฟุตบอล นโยบายสโมสรมีอยู่แล้วว่าให้ปั้นเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเด็กอายุ 17,18,19 ,21,23 ผมก็ประกาศตรงนี้เลยว่าเด็กคนไหนที่มันเก่งจริง และสามารถเล่นชุดใหญ่ได้ ผมไม่รีรอที่จะเอาขึ้นเหมือนกัน เพราะผมเป็นโค้ชที่ชอบดันเด็กที่มีความกระหายอยากมีความก้าวหน้าในอาชีพฟุตบอล ผมเชื่ออีกว่าเด็กที่ผ่านมือผม เขาจะมีจิตที่แกร่ง และก็ยืนหยัดกับสังคมตรงนี้ได้”
“ส่วนเรื่องความกดดันต่างๆนั้น ผมคิดว่าไปรับงานที่ไหนก็กดดันหมด ผมเชื่อว่าโค้ชทุกคนเจอหมด แต่เผอิญว่าชลบุรีเขามีความสำเร็จมามากมาย มีถ้วยบานเลย เพราะฉะนั้น สิ่งนึงที่จะสร้างชลบุรี ก็คือมาสร้างฟุตบอลให้เล่นสนุกก่อนโดยเฉพาะเกมในบ้าน ผลการแข่งขันถ้ามันตามมาได้ด้วยก็ยิ่งดี ขณะเดียวกันมันต้องใช้เวลา ใช้ความอดทนพอสมควร เพราะอย่าลืมว่า เมื่อไหร่ที่สโมสรฯมีนโยบายส่งเสริมเรื่องของฟุตบอลที่เก่งเล็กขึ้นมา ถ้าเราโชคดีที่มีตัวประครองที่ดีด้วย ผมเชื่อว่าเรามีโอกาสประสบความสำเร็จเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมขอวิงวอนแฟนคลับฉลามว่า การคาดหวังมีได้ แต่มันต้องใช้เวลา ต้องใช้เหตุผล และงบประมาณที่เราค่อยๆสร้าง”สะสม พบประเสริฐ นายใหญ่ฉลาม กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับ “โค้ชเตี้ย” ถือเป็น หัวผู้ฝึกสอน ที่มีประสบการณ์สูง ในวงการฟุตบอล ของเมือง ไทย ที่เคยผ่านการคุมทีม ในระดับ สโมสร และ ทีมชาติ มาแล้วมากมาย ที่ผ่านมา เคยคุม การท่าเรือ เอฟซี ได้แชมป์ฟุตบอลถ้วย 2 รายการติดต่อกัน 2 ปี คือ เอฟเอคัพ ครั้งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2552 ด้วยการชนะ บีอีซีเทโร เอฟซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 เสมอ ในเวลา 1-1ก่อนที่ปีต่อมา พ.ศ. 2553 จะพา การท่าเรือ เอฟซี ได้แชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ ด้วยการล้ม ทีมอย่าง บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้ 2-1
และยังเคยพา แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ตกชั้น จาก ไทยลีก ครั้งที่ 14 เมื่อปี พ.ศ. 2553 ซึ่ง “โค้ชเตี้ย” พาทีม เลื่อนชั้น จาก ดิวิชั่น 1 กลับมาสู่ ไทยลีก ได้สำเร็จ ในปี พ.ศ. 2555
นอกจากนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2560 “โค้ชเตี้ย” ก็พา แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี จาก ไทยลีก 2 เลื่อนชั้นกลับมาสู่ ไทยลีก 1 ได้สำเร็จ โดย เขา คุม แอร์ฟอร์ซเซ็นทรัล เอฟซี เป็นระยะเวลาสั้นๆ แค่ 8 นัด ใน ไทยลีก ฤดูกาล 2018ที่ผ่านมา หลังคุมทีมเปิดบ้านแพ้ พีที ประจวบ เอฟซี 1-3 เมื่อวันที่ 31 มี.ค.
โดย “โค้ชเตี้ย” จะเดินทางไปคุมทีม ลงทำการฝึกซ้อมมื้อแรกทันที ที่สนาม ชลบุรี เอฟซี เทรนนิ่งกราวด์ ภายใน สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขต ชลบุรี เวลา 16.00 น. และ จะคุมทีม ลงเกมแรก ใน ไทยลีก ด้วยการ เปิดบ้านต้อนรับ การมาเยือน ของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.นี้ เวลา 19.00 น.
ข้อมูลเฉพาะ ของ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ, วันเกิดเมื่อวันที่ : 10 ตุลาคม 1967 เป็นชาว จ.นครสวรรค์
ประวัติการทำงาน
ปี 2001 : ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี
ปี 2003 : ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี
ปี 2004 : บีอีซี เทโรศาสน
ปี 2009 : การท่าเรือ เอฟซี
ปี 2011 : ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี
ปี 2012 : ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ปี 2014 : ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
ปี 2015 : แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด